จากบันทึกของพี่ป้อม
"ปี พ.ศ. 2501 เมื่อพ่ออายุได้ 46 ปี พ่อเริ่มสนใจสะสมกระบองเพชรอันเป็นต้นไม้ประดับที่มีราคาแพงและหายากในสมัย นั้น เราซื้อมาจากชาวไต้หวันคนหนึ่งที่สั่งเข้ามาจาก สหรัฐอเมริกา และจากนักสะสมหลายคนในเมืองไทย ค่อยๆ สะสมและขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อออกจากงานประจำในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายโฆษณาของบริษัทนพรัตน์ บางลำพู พ่อก็เริ่มหาทางค้าขายกระบองเพชรที่ท่านรัก
ปี พ.ศ. 2504 ร้านลุงจรณ์ได้ตั้งขึ้นที่ เชิงสะพานเสี้ยว ตรงข้ามกรมสรรพากร ซึ่งปัจจุบันเป็นเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า"
พิกุล สังข์สุวรรณ
"ปี พ.ศ. 2501 เมื่อพ่ออายุได้ 46 ปี พ่อเริ่มสนใจสะสมกระบองเพชรอันเป็นต้นไม้ประดับที่มีราคาแพงและหายากในสมัย นั้น เราซื้อมาจากชาวไต้หวันคนหนึ่งที่สั่งเข้ามาจาก สหรัฐอเมริกา และจากนักสะสมหลายคนในเมืองไทย ค่อยๆ สะสมและขยายพันธุ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อออกจากงานประจำในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายโฆษณาของบริษัทนพรัตน์ บางลำพู พ่อก็เริ่มหาทางค้าขายกระบองเพชรที่ท่านรัก
ปี พ.ศ. 2504 ร้านลุงจรณ์ได้ตั้งขึ้นที่ เชิงสะพานเสี้ยว ตรงข้ามกรมสรรพากร ซึ่งปัจจุบันเป็นเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า"
พิกุล สังข์สุวรรณ
หนังสือวีรธรรม จัดว่าเป็นนิตยสารที่เป็นที่นิยมมากในสมัยหนึ่ง ให้ความรู้ และบันเทิง โดยเฉพาะกับเด็กนักเรียน มัธยม | |
ภาพบางส่วน ป็นภาพจาก "บ้านปากเกร็ด" บ้านที่พวกเราเช่าอยู่
ที่สนามบินน้ำ เป็นบ้านมีที่กว้าง 3 ไร่ พ่อปลูกกล้วยไม้เป็นส่วนใหญ่
และแบ่งที่ปลูกแคคตัส ส่วนหนึ่ง
| ภาพที่ 19 เป็นภาพของ
พ่อพิจรณ์ สังข์สุวรรณ พ่อดีใจ ที่มีคนมาถ่ายทำ จะได้เผยแพร่ความรู้ และวิธีการดูแลออกไปให้กว้างขวาง พ่อพูดเสมอว่า
"ถ้าเค้าเลี้ยงได้ ไม่ตาย
|